สัมภาษณ์ ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผอ.ศูนย์วิจัยทองคำ-ดัชนีทองคำ ก.ค.68
ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวถึงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือน กรกฎาคม 2568
แนวโน้มราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นต่อ สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือน กรกฎาคม ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 74.80 เพิ่มขึ้น 1.13 จุด หรือคิดเป็น 1.53%
ปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ ความตึงเครียดของสงครามการค้า ที่ ปธน.ทรัมป์ ขีดเส้นใต้จะเริ่มใช้อัตราภาษีใหม่ 1 ส.ค. ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง แม้ช่วงนี้จะเบาบางลง แต่ยังคงต้องจับตาใกล้ชิด
ขณะที่การประชุม FOMC ในวันที่ 31 ก.ค. แม้ว่านักวเคราะห์คาดการณ์ว่า FED จะยังไม่ดลบดอกเบี้ย แต่คาดว่าจะเริ่มลดในเดือนก.ย. ซึ่งจะเป็นแรงหนุนสำคัญให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น
มาดูมุมมองจากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 12 ราย คาดการณ์กรอบราคาทองคำ goldspot เดือนกรกฎาคม เฉลี่ยบริเวณ 3,274 – 3,410 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 50,100 – 52,600 บาท ซึ่งมองว่าเมื่อราคาย่อตัวลงมายังเป็นจุดเข้าซื้อสะสม
ทั้งนี้ ผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ฯ มองว่าการลงทุนทองคำยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสงครามการค้า ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงตึงเครียด และทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ
ทั้งนี้ แม้ว่าราคาทองคำจะมีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังมีโอกาสที่จะเกิดแรงขายทำกำไรเป็นระยะ นักลงทุนจึงควรติดตามปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 คาดปรับลดลงจากไตรมาสที่ 2 จากระดับ 66.78 จุด มาอยู่ที่ระดับ 64.46 จุด ลดลง 2.32 จุด หรือคิดเป็น 3.48% โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับลดลงนั้น ได้แก่ ทิศทางนโยบายของ FED ปริมาณความต้องการทองคำที่ลดลง สงครามการค้าเริ่มคลี่คลาย และสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเริ่มคลี่คลาย
“เมื่อมองภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในครึ่งปีหลัง มองว่ายังมีโอกาจะปรับเพิ่มสูงขึ้นได้จากปัจจุบัน แต่จะไม่สร้างสถิติจุดสูงสุดตลอดกาล (All Time High : ATH) ใหม่ได้ หลังจากช่วงครึ่งปีแรก goldspot ขึ้นแตะระดับ 3,500 ดอลลาร์ และราคาทองคำไทยแต่ระดับ 54,800 บาท” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวและว่า
ปัจจัยที่ต้องจับตาใกล้ชิดและมองว่าจะส่งผลต่อราคาทองคำในครึ่งปีหลัง ก็คือนโยบายดอกเบี้ยของเฟด หากว่า เฟดลดดอกเบี้ยเร็ว หรือลดมากว่า 2 ครั้งอาจทำให้ราคาบวกขึ้นแรง รวมถึงยังต้องรอดูเรื่องความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนราคาที่สำคัญ แต่ทั้งนี้ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า แรงหนุนจากสงครามจะมาเร็วและไปเร็ว ยกเว้นในความขัดแย้งจะมีประเทศที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้สงครามยืดเยื้อได้
รับชมคลิป ทิศทางทองคำ-ดัชนี
Comments are closed.